Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๔๗

eddy_coverทุกข์ลอยฟ้า

โดย aston27
aston2

bank-147

(ภาพประกอบจากความใจดีของคุณแป๋ว SevenDaffodils ครับ)

“สวัสดีครับท่านผู้โดยสารทุกท่าน ผมกัปตันแอสตันและลูกเรือ
มีความยินดีขอต้อนรับท่านสู่บริการสติ ของธนาคารความสุข”

ผมนั่งเขียนบทความตอนนี้บนเครื่องบินของการบินไทย
บนเส้นทางกลับจากลอนดอนสู่เมืองไทย แต่นแต๊น...

ใครจะว่าการบินไทยแพงยังไง
แต่ผมก็ยังสบายใจมากกว่านั่งสายการบินอื่น
ไม่ใช่เพราะแอร์สวยอะไร แต่เพราะเราพูดภาษาเดียวกัน
และผมรู้สึกว่าจิตสำนึกในการให้บริการของเรา ดีไม่แพ้ชาติไหน

อีกอย่าง...
การนั่งเครื่องไกลๆ เกือบสิบสองชั่วโมงในที่นั่งชั้นประหยัด
ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเท่าไหร่ แต่ไปกับการบินไทยก็อุ่นใจกว่า
นี่ไม่ได้รับจ้างการบินไทยมาเขียน PR Advertorial นะครับ - -“

ขาไปผมนั่งติดกับผู้ชายอังกฤษออริจินัลขนานแท้
เพราะแกตัวโตราวๆ นักมวยรุ่นซุปเปอร์มิดเดิลเวทได้

จริงๆ พี่เขามารยาทดีนะ แต่ความที่เขาตัวใหญ่
เวลานั่ง แขนแกเลยล้ำพนักวางแขนมานิดนึง
ผลคือ ผมเลยต้องนั่งตัวลีบมาอีกฝั่งของเก้าอี้

ขากลับไม่มีปัญหาเรื่องคนนั่งข้างๆ แต่มีปัญหาใหญ่กว่านั้น

คือที่นั่งตรงกลางแถวเดียวกับผม เป็นครอบครัวฝรั่ง
สองสามีภรรยาพาลูกเล็กๆ สามคนหอบกันขึ้นเครื่องไปเที่ยว

แล้วเด็กเล็กน่ะครับ เขาก็อยู่นิ่งไม่ได้ อยู่แล้วเขาจะเบื่อ
ก็วิ่งมั่ง ร้องโยเยมั่ง จะมีเสียงแง้......... แง้........ มาเป็นยกๆ

มองในแง่นึง ดูน่าอึดอัดรำคาญ ว่าไหมครับ
แต่อย่างที่เคยบอกไว้ในหลายโอกาส
ว่าปัญหากับทุกข์ มันคนละส่วนกันนะ

ถ้าเมื่อไหร่มีปัญหา แล้วมีสติ มีปัญญา
เข้าใจได้ว่ามันเป็นธรรมดาของโลก ของการนั่งเครื่องบิน
โดยเฉพาะไฟลท์แบบนี้ ที่จะต้องเจอ
ใจมันก็จะไม่ค่อยทุกข์หรอก หรือทุกข์ก็ทุกข์น้อยๆแต่พองาม

แต่ถ้าสติมันไม่ทัน ปัญญามาไม่พอ ใจมันเหวี่ยงไปแล้ว
มันปรุงแต่งไปแล้วว่า ทำไมเอาเด็กเล็กขึ้นเครื่อง (วะ)
ทำไมไม่เกรงใจคนอื่น (วะ) ทำไม ทำไม และทำไม…

พอเริ่มมีคำว่า “ทำไม” จิตก็ทุกข์ไปแล้วละครับ
จิตปรุงแต่งเมื่อไหร่ ใจก็มีภาระเมื่อนั้น

วิธีที่ช่วยได้คือลองนึกเข้าใจ เห็นใจพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ มากๆ หน่อย
ว่าเขาก็ไม่ได้อยากให้ลูกโยเยหรอก เขาก็คงทุกข์ไม่น้อยที่ลูกร้อง
พอใจเรามีเมตตา สติ ปัญญา ก็ตามมาได้ง่าย เราจะไม่เคืองเขา
แต่วิธีนี้ คนที่มีลูกแล้วจะเข้าใจได้ง่ายกว่าคนที่ยังไม่มีลูก

พระพุทธเจ้าเคยเปรียบว่า คนทั่วไปในโลกจะโดนธนูสองดอก
ดอกแรกคือปัญหาที่มากระทบจิตใจเรา
ดอกที่สองคือทุกข์ที่เกิดจากความปรุงเติมเสริมแต่งของใจเราเอง

จะขึ้นเครื่องแต่ละไฟลท์ เราเลือกไม่ได้หรอกครับ
ว่าจะต้องไปเจออะไร เจอคนแบบไหนบ้าง
ก็คล้ายกับที่ลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ว เราก็ไม่รู้หรอกครับ
ว่าวันนี้ เราจะเดินออกไปเจอปัญหาอะไรบ้าง

แต่เราเชื่อได้อย่างหนึ่งแน่ๆ ว่าถ้าใจเราพร้อม
ใจคุ้นเคยจะมีสติ คุ้นเคยจะมีเมตตา คุ้นเคยจะมีปัญญา
ไม่ว่าปัญหาอะไรจะมาถึง ถ้าโดนธนูยิงใส่
เราก็จะโดนธนูแค่ดอกเดียว ที่ไกลหัวใจ
ไม่ถึงกับต้องดิ้นทุรนทุรายหรือตายทั้งเป็น

วางใจว่ามีเรื่องรบกวนบนเครื่อง เท่ากับมีเรื่องให้เจริญสติ
และไม่ว่าจะมีอะไรรบกวนแค่ไหนก็ไม่ว่า
ขอให้เครื่องลงโดยปลอดภัยก็แล้วกันนะ ^^”

สุขสันต์วันที่ทุกข์ลอยตามมาบนฟ้าครับ