Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๔๔

eddy_coverพาจิตกลับบ้าน

โดย aston27
aston2

bank-144
(ภาพประกอบโดยความใจดีของคุณ SevenDaffodils ครับ)


Q: การที่คนเราทุกข์ เพราะส่วนใหญ่เกิดจากจิตที่ไม่อยู่กับปัจจุบัน
และมีแต่การปรุงแต่งตลอดเวลา การจะทำให้จิตกลับมามีวิธีการอย่างไรบ้าง
และเราจะประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่างไรคะ

A: เคยอ่านหนังสือผมบ้างหรือเปล่า ในนั้นจะพูดเรื่องนี้เยอะนะ Smile

คร่าวๆคือการหัดมีสติ รู้สึกตัว รู้สึกลงที่กาย รู้สึกลงที่ใจ รู้ตามความจริง
และรู้สิ่งที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน สดๆใหม่ๆร้อนๆ

ไม่ได้แปลว่าต้องรู้อะไรมากมาย หรือต้องบังคับให้มันดี มันสุข
หรือให้มันนิ่งตลอด ไม่ว่อกแว่กเลยอะไรอย่างนั้น ไม่ใช่นะ
เพราะจิตเป็นอนัตตา คือมันไม่ใช่ตัวตนของเราจริง
ฉะนั้น เราสั่งเราบังคับจิตไม่ได้จริงหรอก

ที่ทำได้ก็เพียงแต่ เมื่อมันปรุงแต่งก็รู้สึกตัว ดูใจที่ปรุงแต่ง
มันคิดฟุ้งไปในเรื่องอดีต เรื่องอนาคต ก็รู้ทันว่าจิตกำลังคิด
ไม่สนใจสิ่งที่คิดหรือเนื้อหาว่าคิดเรื่องอะไร อดีตหรืออนาคต
สนใจแค่กิริยาของจิตว่า กำลังคิดอย่างเมามัน รู้สึกลงไปตรงนั้น

ไม่ต้องจงใจให้จิตกลับมาหรอกครับ
เพราะเมื่อไหร่รู้สึกตัว รู้ทันปั๊บ จิตจะกลับมาเอง

ถามว่าจะประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้ไง
ตอบว่า ก็มีสติรู้ลงที่ปัจจุบันนี่แหละ
เพราะชีวิตประจำวันเราก็คือปัจจุบันถูกไหม
หลังจากนั้น คอยมารู้กายรู้ใจตัวเองไว้
หาอารมณ์กรรมฐานไว้ให้จิตเคล้าเคลียอยู่สักอย่างนึง

พูดถึงตรงนี้ จะมีคนสงสัยว่าอารมณ์กรรมฐานคืออะไร
คำว่าอารมณ์ ในทางบาลีแปลว่า “สิ่งที่ถูกจิตรู้” หรือ “สิ่งที่จิตไปรู้เข้า”
กรรมฐาน คือฐานของการทำกรรม ก็คือการกระทำ
หมายถึง การปฏิบัติธรรมการเจริญสติบนฐานของอะไรสักอย่าง
โดยการเอาจิตไปรู้อยู่จดจ่อเคล้าเคลียในสิ่งนั้น

เช่นถ้าจะใช้ลมหายใจเป็นอารมณ์กรรมฐาน
ก็คอยรู้อยู่ว่าหายใจเข้า หรือหายใจออก
พอเริ่มชำนาญแล้วก็รู้ต่อว่า
หายใจเข้าสั้นหรือยาว หายใจออกสั้นหรือยาว

หรือถ้าใช้คำบริกรรม เป็นอารมณ์กรรมฐาน
ก็หาคำสั้นๆสักคำที่เรานึกถึงแล้วสบายใจ
เช่น พุทโธๆ พุทโธๆ ก็นึกถึงคำนั้นในใจ ไม่ต้องออกเสียง
ยืน เดิน นั่ง นอน เราพุทโธได้ตลอดเวลานะ

หรือจะใช้กายเป็นอารมณ์กรรมฐาน
ก็รู้การเคลื่อนไหว หรือกายกระทบสัมผัส
เช่นการมีสติรู้ว่าร่างกายเคลื่อนไหวในท่าเดินทีละก้าวๆ
เรียกว่าการเดินจงกรม

ถ้าอยู่คนเดียว ว่างๆ นั่งขยับมือแล้วคอยรู้สึก
เน้นว่าแค่รู้สึกนะ อย่าเพ่ง

บางคนดูท้องพองยุบ ก็อยู่ในหมวดรู้กาย
บางคนใช้วิธีเอาปลายนิ้วถูกกันเล่น แล้วคอยรู้สึก
บางคนใช้นิ้วเคาะขาเวลานั่ง ทำได้เยอะแยะนะ
แต่ระวังอย่าทำท่าเยอะๆ เวลาอยู่ในที่สาธารณะก็แล้วกัน Smile

บางท่านถามว่า ใช้จิตเป็นอารมณ์กรรมฐานได้มั้ย ได้นะ
เช่นคนขี้โมโห ครูบาอาจารย์จะสอนว่าให้คอยรู้สึกที่จิต
รู้ว่าตอนนี้จิตมีโทสะหรือตอนนี้ไม่มีโทสะ แบบนี้ก็ได้

อะไรก็ได้นะ ขอให้ได้มีสติอยู่กับตัวเองมากๆ
แล้วจะช่วยให้รู้ทันจิตที่วิ่งไป วิ่งมา ระหว่างอดีต ปัจจุบัน อนาคต
เห็นได้ชัดขึ้นก็รู้ทันได้ง่าย ไวขึ้น สติก็จะอยู่กับปัจจุบันมากขึ้นๆ

อย่าลืมพื้นฐานที่ต้องมี เช่นรักษาศีล ๕
หรือการทำในรูปแบบเช่น ไหว้พระ สวดมนต์
จะนั่งสมาธิ ถ้านั่งเป็น นั่งถูกหลักก็นั่งไปครับ
เริ่มใหม่ๆ เอา ๑๐ นาทีพอ ไม่ขอมาก
ครูบาอาจารย์จะขอให้ทำทุกวัน จะช่วยให้การเจริญสติดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น

เอาเข้าจริง ทำแบบนี้จริงๆสักเจ็ดวัน สิบวัน
ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงในใจได้แล้วนะ

สุขสันต์วันที่จิตจะได้กลับบ้านครับ