Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๓๒

น้ำท่วม รถเมล์ ลิเก สติ

aston2โดย aston27

 


bank-132
(ภาพประกอบโดยฝีมือและความใจดีของคุณ SevenDaffodils ครับ)

น้ำปีนี้ท่าทางจะดุ และเยอะมากเอาการ
ผมเข้าใจและเห็นใจพี่น้องหลายๆคนที่น้ำท่วมครับ
ไม่ได้พูดแบบหาเสียง แต่อย่างที่เล่าไปเมื่อตอนที่แล้วว่า
บ้านผมเองก็ท่วมเหมือนกัน

บ้านผมอยู่ท้ายซอยท่าอิฐ นนทบุรี
น้ำเริ่มเอ่อท่วมพร้อมๆ อยุธยา ตั้งแต่ตอนที่คนกทม.จำนวนมาก
ยังคิดว่าน้ำคงจะไม่ท่วมกรุงเทพฯแน่ๆ นั่นแหละ

การที่ผมเจอน้ำค่อยๆ ขึ้นท่วมก่อนชาวบ้าน มันมีข้อดีนะครับ
ที่เห็นชัดคือมีเวลาเตรียมการรับมือก่อนชาวบ้าน มีแผนหนึ่ง แผนสอง
และผมไม่คิดว่ามันอาจจะไม่ท่วม แต่คิดเลยว่าจะท่วมแน่
อย่างน้อยก็ดีกว่าประมาท คิดว่าจะไม่ท่วม แล้วไม่ได้เตรียมอะไรเลย

น้ำท่วมนี่ก็คล้ายกับทุกข์ในชีวิตเรานี่แหละ
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้เรามีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท จำได้ใช่ไหมครับ
ที่สอนอย่างนั้น เพราะชีวิตพวกเราล่อแหลมต่อการเจอทุกข์ตลอดเวลา

ถ้าเปรียบการเกิดเหมือนเราขึ้นรถเมล์คันหนึ่ง มีกรรมของเราเป็นคนขับ
ถ้ากรรมดีเป็นคนขับ แกก็ขับดีหน่อย กรรมชั่วเป็นคนขับ ก็เหนื่อยไป

ระหว่างทางจะมีความแก่ชราขึ้นมาเพิ่มบนรถเราทุกป้าย ทุกไฟแดง
ผู้โดยสารชื่อ นายเจ็บป่วยก็รออยู่ แต่ไม่รู้ว่ามันจะมาขึ้นที่ป้ายไหน โค้งใด
ส่วนความตายไม่ต้องพูดถึง มั่นใจได้แน่นอนว่า
ป้ายสุดท้ายของรถเราเที่ยวนี้ นายท่าที่รอเราอยู่ แกชื่อน้ายม
เหมือนชื่อเต็มแกจะชื่อ ยมบาล น่ะครับ ^^

ระหว่างทาง ยังมีผู้โดยสารอย่าง
นส.โศกเศร้า นามสกุล ร่ำไรรำพัน
นายไม่สบายกาย นามสกุล ไม่สบายใจ
ด.ช.คับแค้นใจ ด.ญ. พลัดพรากจากสิ่งที่รัก
และนางประสบ กับสิ่งที่ไม่พอใจ ขึ้นๆ ลงๆ เป็นระยะๆ

น้ำท่วมก็นับเป็นการประสบกับสิ่งที่ไม่พอใจ ไม่สบายใจ ใช่ไหมครับ
คงไม่มีใครที่นับวันรอด้วยความหวังอันแสนหวานว่าน้ำจะท่วมหรอกนา
พระพุทธเจ้าท่านเคยเปรียบว่าทุกชีวิตมีทุกข์รออยู่
เหมือนมีไฟกำลังไหม้หัว บางคนรู้ตัว บางคนไม่รู้
บางคนเหมือนจะรู้แต่ไม่เชื่อว่าจะเกิดกับตัวเอง
เผลอๆ อาจจะคิดว่าที่กำลังร้อนๆ หัวน่ะ
เพราะอบไอน้ำเสริมความงามให้เส้นผมอยู่

จะว่าไป น้ำท่วมรอบนี้สอนอะไรเราเยอะนะครับ
อย่างน้อยเราก็เห็นว่าการขาดการเตรียมพร้อม
ความประมาท การคิดว่าจะเอาชนะธรรมชาติได้ ผลเป็นยังไง

และได้เห็นโลกนี้เป็นเหมือนโรงลิเกโรงหนึ่ง มีตัวละครหลากหลาย
ลิเกเรื่องนี้ท้องเรื่องคือเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่
มีคนที่เตรียมพร้อม มีคนไม่เตรียมพร้อม
มีคนที่พึ่งตัวเองได้ มีคนที่คร่าครวญหวังจะพึ่งแต่คนอื่น
มีคนที่สงบ ยิ้มรับ มีคนที่ตื่นตระหนก ขาดสติ
มีคนที่เข้าใจ มีคนที่ไม่เข้าใจโวยวาย ก่นด่า กราดเกรี้ยว

มีคนที่รักชีวิตมากกว่าทรัพย์สิน
มีคนรักทรัพย์สินมากกว่าความถูกต้อง
อาจเพราะลืมไปว่า เรามีบ้าน มีรถ มีทรัพย์
เพื่อใช้งาน ทำประโยชน์จากมัน...ไม่ได้เอาไว้แบก

ลิเกเรื่องนี้สอนว่า ถ้าจะต้องเสียบ้าน เสียรถ เสียทรัพย์ ยังหาได้ใหม่
แค่...อย่าเสียสติไปด้วยอีกอย่างก็แล้วกัน

จะว่าไป มีทุกข์ใหญ่ๆ ร่วมกันสักที ก็ไม่เลวหรอกนะ
เหมือนธรรมชาติมาสะกิดเราแรงๆ ซะทีนึงให้ตื่น

ที่อ่านๆ อยู่ ส่วนมากก็รู้จักคุณดังตฤณ รู้จักหลวงพ่อปราโมทย์ฯ
รู้จักพระพุทธเจ้า รู้จักธรรมะของท่าน นับว่ามีบุญแล้วนะ
ถ้าไม่ภาวนาชาตินี้ แล้วจะภาวนาชาติไหน
ไม่ภาวนาเสียแต่ตอนนี้ แล้วจะรอให้น้ำท่วมโลกก่อนหรือไร

สุขสันต์วันที่สติเรายังไม่จมน้ำไปนะครับ