Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๓๑

น้ำท่วม แมลงวัน กับทางออก

aston2โดย aston27

 


bank-131
(ภาพประกอบโดยฝีมือและความใจดีของคุณ SevenDaffodils ครับ)

คำทักทายที่ติดปากคนไทยในเมืองหลวงวันนี้
เห็นจะไม่มีประโยคไหนทันสมัยไปกว่า “บ้านน้ำท่วมมั้ย”

เพื่อไม่ให้เป็นการตกยุคตกสมัย ในเมื่อบ้านอื่นเขาท่วมกัน บ้านผมก็ท่วมมั่ง
ผมนั่งลุ้นมาสามวันว่าน้ำที่มาสามัคคีชุมนุมกันเต็มโรงรถกับสนามหญ้าหน้าบ้าน
จะเข้ามาสันทนาการในบ้านผมโดยไม่ได้รับเชิญวันไหน และเท่าไหร่

ผมพบว่าส่วนที่แย่ของน้ำท่วม ไม่ได้อยู่ตรงที่มันท่วมหรอก
มันอยู่ตรงที่เราไม่รู้ว่ามันจะท่วมเมื่อไหร่ กี่วัน และจะท่วมสูงแค่ไหนมากกว่า
คือถ้ารู้แน่ เราก็นัดแฟนนัดญาติพี่น้องเพื่อนฝูงมาช่วยยกของแผลบเดียว
คำนวณได้ว่าจะวางกระสอบทรายสูงแค่ไหน จะวางแผนไปลี้ภัยกี่วัน
กลับมาก็รื้อกระสอบทรายออก ล้างบ้าน ทำความสะอาด แล้วจบกัน

แต่มาถึงตรงนี้ก็ได้แต่ฟังข่าวซึ่งก็สะเปะสะปะไม่รู้จะเชื่อใครดี
แล้วก็เดาครับว่าน้ำน่าจะสูงเท่านั้นเท่านี้ ยกของไว้ขนาดนี้ก็แล้วกัน

ระหว่างที่นั่งทำงานอยู่กับบ้าน เพื่อรอดูสถานการณ์น้ำท่วม
ก็มีแมลงวันตัวใหญ่พอเหมาะแต่เคราะห์ร้ายตัวหนึ่งบินหลงเข้ามา
คาดว่าแกจะบินเข้ามาจากประตูระเบียงที่ผมเปิดไว้รับลม
ผมนั่งดูแกบิดฉวัดเฉวียนเวียนวนเหมือนคนหาทางออกไม่เจอ
เดชะกรรม มันฟังภาษาคนไม่ออก ไม่งั้นจะบอกทางว่า น้าๆ...
น้าก็บินกลับไปทางเดิมที่น้าบินมาสิ จะไปวนหาทางอื่นทำแมลงอะไร

มีสำนวนที่ได้ยินบ่อยๆว่า ให้ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว
นั่งๆดูแมลงวัน แล้วเลยย้อนดูตัวมั่ง ว่าเป็นแบบแมลงวันตัวนี้ไหม

มีอะไรในชีวิตตอนนี้ไหมครับ ที่เราไปเวียนวนสนตะพาย
แล้วดูคล้ายๆ ละม้ายว่าจะไม่มีทางออก
โลกนี้มันไม่มีหรอกครับ ทุกข์ที่ไม่มีทางออก
เพราะถ้ามันมีทางเข้าได้แล้วไซร้
อย่างน้อยไอ้ทางเข้านั่นแหละก็ใช้เป็นทางออกได้

ทางเข้าสู่ทุกข์อย่างหนึ่งก็คือการไม่ยอมรับปัญหา
อย่างน้ำจะท่วม ส้วมจะเต็ม ปลาเค็มจะแพง แกงจะบูด
ถ้ายอมรับไม่ได้ ใจก็เข้าสู่โหมดทุกข์ในบัดเดี๋ยวนั้น

แต่ถ้าเข้าใจ ยอมรับได้ว่ามันก็เป็นไปตามธรรมชาติ ตามเหตุปัจจัย
ไม่ใช่อะไรที่เราจะบังคับได้ สั่งได้ ตามใจเรา แล้วจะเอาอะไรกับมัน
ทุกข์มันก็เบาคลายหายไปได้เองนะครับ

ถ้าใจที่ไม่ยอมรับ ไม่พอใจ เป็นประตูทางเข้าสู่ทุกข์
ทางออกจากทุกข์ ก็ไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อนไปกว่าย้อนไปรู้ทันใจ
รู้ว่าใจไม่ยอมรับ ใจไม่พอใจ ใจไม่อยากให้น้ำท่วม
ใจอยากให้น้ำแห้ง ใจ ฯลฯ

รู้ด้วยใจซื่อๆ รู้สึกลงไปแบบไม่หวัง ไม่โลภจะให้มันหาย
คือถ้าเป็นแมลงวัน ก็บินย้อนไปซื่อๆ กลับทางเดิม
ไม่ต้องบินผาดโผน ไม่ต้องลีลามาก

วนอยู่ในทุกข์เพราะน้ำท่วม ส้วมเต็ม ปลาเค็มแพง นี่ยังเรื่องเล็กนะ
พวกเราน่ะวนอยู่ในกองทุกข์ที่ใหญ่กว่านั้นเยอะ คือวนอยู่ในภพต่างๆ
อาศัยกรรม อาศัยขันธ์ห้า ขันธ์สี่ ขันธ์เดียวบ้าง เวียนว่ายตายเกิด
ไม่จบไม่สิ้น จับต้นไม่ได้ หาปลายไม่เจอ และคงไม่มีใครเห็นทางออก
ถ้าไม่เพราะพระพุทธเจ้าท่านมาบอกทางให้ ว่าทางออกอยู่ที่ไหน

ถ้ายังสงสัยว่า แล้วทางออกอยู่ที่ไหนเหรอคุณแอสตัน
ให้รู้ทันว่าสงสัยนะ แล้วผมจะถามกลับว่าความสงสัยมันเกิดที่ไหน
ทุกข์มันก็เกิดที่เดียวกัน ทางออกมันก็อยู่ที่นั่นแหละ

สุขสันต์วันน้ำท่วมบ้าน แต่ไม่ท่วมสติ ปัญญาเราไปด้วยนะครับ