Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๐๖

ชีวิต คำตอบ ข้อสอบ คำเฉลย

aston2โดย aston27

 

 

bank_106
(ภาพประกอบด้วยความเมตตาจากคุณ SevenDaffodils เช่นเคยครับ)

คุณผู้อ่านเรียนเก่งไหมครับ?
สมัยเด็กๆ ผมไม่ใช่เด็กเรียนเก่งระดับอัจฉริยะอะไรหรอกครับ เพราะผมหัวดีแต่ขี้เกียจ
ไปเจอวิชาที่ต้องท้าสมองลองปัญญาอย่างวิชาคณิตศาสตร์ ผมก็ปาดเหงื่อแล้วปาดอีก

ผมเชื่อว่านักเรียนทั่วไปโดยเฉลี่ย มีความถนัดในแต่ละวิชาไม่เท่ากัน
ไอ้ประเภทเรียนดี ๒๔ ชม. ได้เกรด ๔ ทุกวิชา  ที่ ๑ ประเทศไทย ชนิดไอน์สไตน์เรียกพี่ เห็นจะมีไม่เกินหยิบมือ

บางคนชอบคณิต เพราะชอบคำนวณ บางคนชอบวรรณคดี เพราะมีใจรักหนังสือ
บางคนชอบพละ เพราะชอบเตะตะกร้อ ชนิดถ้าไปขอให้เลิกเล่น เห็นจะได้เตะปากกันแทน
บางคนเห็นเลขเป็นหงายหลัง เห็นอังกฤษสู้ตาย บางคนเก่งมันทุกวิชา แต่ตกอยู่วิชาเดียว คือ...

...วิชาพละ  - -"    มีนะอย่าได้ขำไปเชียว

ถึงจะหัวดีพอสัณฐานประมาณหนึ่ง ผมก็ยังทะลึ่งอยากไปเรียนกวดวิชา
ไม่ใช่เพราะว่ารักเรียนอะไรมากหรอก เพราะอยากไปนั่งใกล้สาวๆ น่ะ - -"

สมัยเรียนมัธยม ผมเรียนที่กรุงเทพคริสเตียน แน่นอนว่าเป็นโรงเรียนชายล้วน
บางคนก็แย้งว่า โรงเรียนชายล้วนส่วนมากจะไม่ชายล้วนจริง
มันจะออกแนว "ล้วนน่าสงสัยว่าจะเป็นชายจริงไหม" มากกว่า
แต่เอาเป็นว่า...ใครจะยังไง...ผมก็ชอบมองสาวๆ สวยๆ ตามวัยของผมก็แล้วกัน

การไปเรียนกวดวิชาของผม บรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดี
ผมมีเพื่อนสตรีหน้าตาดี น่ารัก เพิ่มขึ้นหลายคน
แต่ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้การเป็นเกษตรกรไร่แห้ว โดยไม่ปรารถนาจากที่นี่ด้วย - -"

อีกอย่างที่ผมชอบ ก็เพราะว่าโรงเรียนกวดวิชามักจะมีหนังสือติวข้อสอบแจก
เป็นข้อสอบที่คุณได้ลองทำ แล้วพลิกไปด้านหลัง ก็จะมีเฉลยคำตอบให้ ทันใจ

ผมเคยนึกว่า ถ้าโจทย์ชีวิตมันเป็นแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย
มีโจทย์แล้วยังไม่ต้องทำ ไปแอบพลิกดูเฉลยก่อน แล้วย้อนกลับมาทำ รับรองไม่ผิด

ผมว่าหลายๆ คนคิดแบบนี้นะ เราถึงชอบไปดูหมอกัน
เพื่อจะแอบรู้เฉลยล่วงหน้าว่า ต้องเลือกข้อไหน ถึงจะถูก
จะอยู่ หรือจะไป จะให้อภัย หรือจะเลิก จะเลือกคนไหน คนใหม่หรือคนเก่า
ทำงานอะไรแล้วจะรุ่ง จะมุ่งทางโลกหรือทางธรรม และอีกสารพันคำถาม

แต่ต้องขออภัยที่ต้องบอกว่า ชีวิตจริง มันไม่ใช่หนังสือติวข้อสอบ
จะได้มีคำตอบหมอบอยู่ด้านหลัง ให้เราแอบไปพลิกดูได้
หมอดูหลายๆ ท่านที่ดูผมมา ก็พูดคล้ายกันแบบนี้ว่า
อนาคตคือสิ่งที่ดูยาก โดยเฉพาะเมื่อเดินมาบนทางธรรม
เพราะวิบากจากกรรมเก่าเวลามาเจอกรรมใหม่ มันจะแปรผันไปตามกันเสมอ

พูดแล้วคุณอาจจะขำ เพราะผมเพิ่งนึกได้ว่า
ถ้าชีวิตที่เราเจอกันอยู่ทุกวัน เป็นเหมือนโรงเรียนแห่งหนึ่ง
พุทธศาสนาก็เป็นเหมือนสถาบันกวดวิชาชีวิตเราดีๆ นี่เอง

พระพุทธเจ้าท่านอุตส่าห์เฉลยโจทย์ชีวิตไว้ให้ตั้งหลายอย่าง
ท่านบอกสูตรไว้ว่าจงใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ให้มีสตินะ
ให้มีทาน ศีล ภาวนา อย่าหลงติดอยู่ในกามนะ
มีทุกข์ที่ไหน ให้รู้ลงไปที่นั่น อย่าวิ่งหนีมัน แล้วจะพบความสุข

นอกจากนั้นสถาบันกวดวิชาชีวิตของท่าน มีสาวสวยให้ดูเยอะแยะเลยนะ ^^
แต่มันมีอะไรดีกว่าสาวสวยเยอะเลยน่ะสิ

มีพระสูตรเล่าว่าครั้งหนึ่งพระนันทะอยากสึก เพราะคิดถึงภรรยาที่สวยสุดประดุจยอดนางสาวไทย
พระพุทธองค์เลยพาพระนันทะขึ้นไปดาวดึงส์ ไปดูนางฟ้าบนนั้นที่สวยหมดจด ตะลึงลาน
สวยจนความงามของนางชนบทกัลยาณีอดีตภรรยาของท่าน จืดเป็นน้ำกลั่นเลย

พระพุทธเจ้าใช้กุศโลบายบอกพระนันทะว่าถ้าตั้งใจภาวนา
ท่านรับประกันให้ว่าพระนันทะจะได้พบสวรรค์และนางอัปสรเหล่านั้นแน่ๆ

พระนันทะก็ตั้งใจภาวนาไป ท่ามกลางเสียงแซวของพระรอบๆ ข้างว่า
ท่านรับจ้างพระพุทธเจ้ามาภาวนา โดยมีนางอัปสรเป็นค่าจ้าง

ท่านก็เริ่มมีสติ ย้อนมาดูใจตัวเองก็เห็นจริงดังนั้น ว่าท่านหวังในสวรรค์สมบัติ
ภาวนาไป เห็นกิเลสไป ใจก็เริ่มเข้าสู่ความเป็นกลาง เกิดปัญญา
ที่สุดก็ได้เป็นพระอรหันต์และไปทูลพระพุทธเจ้าว่า พระองค์ไม่ต้องเป็นนายประกันให้แล้ว
เพราะท่านสิ้นความปรารถนาแล้ว

เราเกิดมามีบุญได้ทันยุคสมัยที่คำสอนของติวเตอร์มือหนึ่งอย่างพระพุทธเจ้า ยังสมบูรณ์
เรียนก็เรียนฟรีไม่เสียสตางค์ เฉลยก็มีให้ แล้วถ้ายังไม่เรียน ผมก็เวียนเฮดล่ะนะ

สุขสันต์วันที่คำตอบชีวิต มันซ่อนมิดชิดอยู่ในโจทย์นะครับ