Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๙๙

Inception ความอัศจรรย์ของจิต

aston2โดย aston27



inception


"A single idea from the human mind can build cities. An idea can transform the world and rewrite all the rules."
"ความคิดอันเดียวของมนุษย์สามารถสร้างเมืองได้ ความคิดอันเดียวเปลี่ยนโลกทั้งใบและเขียนทุกกฎขึ้นได้ใหม่"

ศาสตร์หรือความคิดต่างๆที่ว่าด้วยตัวตน
เป็นเรื่องที่ฝรั่งเขาตื่นตัวและสนใจมากนะครับในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา
บางท่านอาจจะถามว่า เรื่องตัวตนของมนุษย์มันเป็นเรื่องไกลตัวเราเกินไปหรือเปล่า?

มีสุภาพสตรีท่านหนึ่ง เพิ่งพูดกับผมว่า
"คนเรา มีแฟนไประยะหนึ่งแล้วพบว่าแฟนเปลี่ยนไป อาจไม่ใช่เพราะเขาเปลี่ยน
แต่อาจเพราะเขาไม่ได้เป็นแบบที่ตัวตนของตัวเองเป็นตั้งแต่แรกต่างหาก"

ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญ Inception ผลงานการกำกับของคริสโตเฟอร์ โนแลน เรื่องนี้
กลายเป็นหนังชั้นดีที่หลายคนบ่นว่าดูแล้วเข้าใจยากพอๆกับ The Matrix

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า คนที่เรียนเรื่องจิตตามคำสอนเรื่องจิตสิกขาของพระพุทธเจ้ามาแตกฉานระยะหนึ่ง จะสามารถดูหนังสองเรื่องที่ว่าได้อย่างเข้าใจไม่ยากเท่าไหร่

ในทางพุทธ มีคำพูดว่า "จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธาน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ"
แปลว่าในชีวิตของคนเรา ไม่มีอะไรที่สำคัญยิ่งไปกว่าจิต

หรืออาจพูดให้ถูกกว่านั้นว่า "จิต" คือทุกสิ่งทุกอย่าง ของชีวิต
เพราะไม่มีใครเป็นอะไรมากไปกว่าที่เราคิด
ความคิดคือตัวกำหนดความเป็น "เรา"

Inception เป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่รับงาน "ฝังความคิดความเชื่อ" ลงในจิตใจของคน
เพราะด้วยความเชื่อว่า "ความคิด" สามารถเปลี่ยนการกระทำ และตัวตนของคนๆหนึ่งได้
อันนี้เป็นหลักเดียวกับที่หนังสือ The Secret เอามาเขียนและขายดิบขายดี

พระพุทธเจ้าท่านเน้นนักเน้นหนา ให้ชาวพุทธเรียนรู้ศึกษาเรื่องราวว่าด้วย "จิต"
ไม่ใช่เพราะท่านสนใจเรื่องการสร้างตัวตนที่ดีที่สุดแบบที่ฝรั่งสนใจหรอกนะครับ
แต่เพราะท่านต้องการให้เห็นแจ้งว่า "ตัวตน" ที่แท้นั้นไม่มี
มีเพียงแค่ "ความคิด" ผิดๆเท่านั้นว่ามีตัวมีตน

ที่น่าอัศจรรย์และน่าขำก็คือ จิต มันปรุงความคิดว่าด้วยตัวตนขึ้นมา
แล้วมันเองก็ยึดเอาตัวตนนั้นมาเป็นภาระ เป็นนาย เป็นทุกข์ของมันเองอีกที

สำหรับ Inception อีกอย่างที่ผมชอบมากอย่างหนึ่ง คือการเล่นกับเรื่องความฝัน
แบบเดียวกับที่ The Matrix เคยตั้งคำถามมาแล้วว่า

"ถ้าเราอยู่ในความฝันที่ไม่มีวันตื่น เราจะรู้ได้ยังไงว่า เรากำลังฝันหรือกำลังตื่น"

แต่คริสโตเฟอร์ เขาเฉลยคำถามนั้น โดยบอกว่า

"Dreams feel real while we're in them. It's only when we wake up that we realize something was actually strange."
"ความฝันมักดูเป็นจริงในยามที่เราฝันอยู่ จนเมื่อตื่นขึ้นมานั่นแหละถึงรู้ว่า มันมีอะไรแปลกๆ"

ครูบาอาจารย์ผม ท่านเคยบอกว่า "ความฝันคือความคิดยามหลับ ส่วนความคิด คือความฝันยามตื่น"
คำถามจึงอยู่ที่ว่า... แล้วทำอย่างไร มนุษย์ถึงจะตื่นขึ้นจากฝันได้?

คำตอบนั้นพระพุทธเจ้าท่านให้ไว้ว่า "เจริญสติ" หรือ "วิปัสสนา" นั่นแหละครับ

สุขสันต์วันที่คนส่วนมากยังไม่รู้ว่าตื่นหรือฝันก็แล้วกันนะครับ