Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๘๘

เราจะช่วยหลวงพ่อปราโมทย์ยังไงดี

astonโดย aston27


88_bank
(ขอบคุณคุณแป๋ว SevenDaffodils ใจดีผู้เอื้อเฟื้อภาพประกอบครับ)

ผมได้รับข้อความจากหลายๆท่าน ทั้งอีเมล์ โทรศัพท์ ข้อความหลังไมค์และในบล็อก
บางท่านอยากรู้เรื่องเบื้องหน้า เบื้องหลัง บางท่านสับสน บางท่านกังวลเป็นห่วง

ก่อนอื่นผมถือโอกาสขออภัย ที่ไม่ได้โทรกลับบางท่านที่โทรเข้ามือถือผมตอนทำงาน
ส่วนหนึ่งเพราะผมลืม :P? อีกส่วนเพราะผมจะเหนื่อยมากถ้าต้องอธิบายให้ฟังทีละคน

พูดให้ถูกกว่านั้น ผมเห็นว่า ไปอ่านเอาจากในประกาศของสวนสันติธรรม
จะชัดเจนและแม่นยำกว่าฟังจากปากผม เพราะผมเองก็ต้องถามคนอื่นเหมือนกัน

หรือถ้าจะถามผม ผมคงตอบไม่ได้ดีไปกว่าพี่ชายทางธรรม คือคุณดังตฤณ
อันนี้หลายท่านคงได้อ่านจาก บท บ.ก. ธรรมะใกล้ตัวฉบับล่าสุดแล้ว

บอกได้แค่ว่า ผมมาภาวนา มาเรียนกับหลวงพ่อหลายปี ท่านสอนแต่สิ่งดีๆ
ท่านไม่เคยขออะไรนอกจากให้ลูกศิษย์ตั้งใจภาวนา ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด

ท่านสอนโยมมาหลายปี ผมสังเกตว่า ท่านไม่เคยอยากให้มีคนมาห้อมล้อม
ท่านปรารภเสมอว่า วันไหนไม่ต้องเจอโยม หลวงพ่อมีความสุข

แต่ที่ท่านยังทนเหนื่อยสอนจนเสียงแห้งทุกวัน เพราะท่านเมตตาพวกเรา
และท่านถือว่ามีหน้าที่ทำงานรับใช้พระพุทธเจ้า ในการเผยแผ่ธรรมะ

ผมเจอท่านครั้งแรก สมัยที่ท่านเพิ่งบวชใหม่ๆ ที่สวนโพธิ์ฯ ที่เมืองกาญจน์
ตอนนั้นยังไม่มีกระทั่งศาลาจะรับญาติโยมเป็นกิจจะลักษณะ ต้นไม้ก็หร็อมแหร็ม

เรียนกับท่านตั้งแต่ยังดื้อ โง่ รั้น ขี้เกียจ ครบลักษณะลูกศิษย์ชั้นเลิศ
แต่ไปหาท่านกี่ที ท่านก็ยิ้ม เมตตา สะกิด บอกเตือน สั่งสอน ทุกครั้ง

ผมใช้เวลา ๔ ปี นะครับ หลังจากเจอท่าน ถึงจะเริ่มเข้าใจว่าท่านสอนอะไร
ฉะนั้น ใครที่เพิ่งเริ่มฟังซีดี อ่านหนังสือท่านแล้วไม่เข้าใจ
จนเริ่มคิดว่าโง่เกินกว่าจะเรียน เชื่อเถอะว่าคุณไม่โง่กว่าผมหรอก

หลายๆคนจะเข้าใจว่า ผมเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดคนสนิทกับท่าน
อยากบอกว่า ถ้าวัดกันโดยระยะห่างทางกาย ผมยังห่างไกลคำว่าสนิทมากนัก
เพราะผมเป็นศิษย์ธรรมดา ไม่ได้เป็นกรรมการวัด ไม่ได้มีตำแหน่งอะไร

ทุกวันนี้ ผมไปวัด ผมก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไรเหนือศิษย์คนไหน
ยังต้องหาที่นั่งเหมือนคนอื่น ต่อคิวทานข้าวเหมือนคนอื่น
ถ้าท่านไม่เรียก ก็ไม่กล้าเข้าไปรบกวนท่าน
นานๆที ถ้าโชคดีบางทีท่านก็เมตตาเรียกไปคุยด้วยสองสามคำ

แต่ในทางจิตใจ ท่านก็ไม่ต่างอะไรจากพ่อผม
เพราะท่านสอนให้ผมเข้าใจแจ่มแจ้งว่า ธรรมะของพระพุทธเจ้า
มันเหมือนเปิดของคว่ำให้หงายได้อย่างไร

คราวนี้มาถึงประเด็นว่า เราจะช่วยหลวงพ่อได้ยังไง
ผมตอบได้ว่าเรื่องที่มีคนโจมตีท่านน่ะ ท่านไม่กระไรหรอกครับ จริงๆนะ
ท่านสอนเสมอ เรื่องโลกธรรม เรื่องสรรเสริญ นินทา จำได้ไหม

ท่านห่วงแต่พวกเราที่ตั้งไข่กันได้แล้ว เริ่มจับหลักภาวนาเป็นแล้ว
จะเสียอกเสียใจ ตีอกชกหัว ไม่เป็นอันภาวนา เรื่องเดียวเท่านั้น

ที่เหลือนี่ ใครจะย้ายสำนักเรียน จะเปลี่ยนอาจารย์ยังไง ท่านก็ไม่ว่าหรอก
ศิษย์บางคนแบบพวกผมเสียอีก ที่แอบคิดว่า ถ้าเหลือคนมาเรียนน้อยๆ เราจะได้สบาย
ไม่ต้องแย่งยกมือกะคนใหม่ๆ อิอิอิ

ฉะนั้น ถ้าอยากช่วยหลวงพ่อจริงๆ อยู่นิ่งๆครับ
ใครจะทำกรรมอย่างไร ปรามาส ละเมิด ครูบาอาจารย์อย่างไร
ให้เขาได้รับกรรมของเขาตามวาระของเขาเอง เราอย่าไปผสมโรง
อย่าตื่นตูม อย่าตอบโต้ ไม่ว่าจะกาย วาจา ส่วนทางใจ เอาไว้ดูกันเองนะ

ส่วนของตัวหลวงพ่อ ทางวัดเขาดูแลกันได้ครับ
เรามีหน้าที่ภาวนา เป็นงานหลักของชีวิต เราก็ทำไปให้ดีที่สุด

เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านจะสร้างวัด ท่านจะทำอะไร
ไม่เคยได้ยินว่า ท่านเรียกร้องเรี่ยไรใครที่ไหนเลย
สิ่งเดียวที่ท่านเคยขอจากผม เหมือนที่ขอจากลูกศิษย์หลายๆคน คือ

"ภาวนาไปเรื่อยๆ อย่าหยุดนะ"

ฉะนั้น เรามาไหว้พระสวดมนต์ทุกวัน ทำทาน ถือศีล ๕ แล้วภาวนากันนะครับ
ท่านจะได้มีกำลังใจว่า อย่างน้อยความเหน็ดเหนื่อยของท่านตลอดเวลาที่ผ่านมา
ก็ไม่ได้สูญเปล่าหรอก

รู้กาย รู้ใจ ลงปัจจุบันตามความเป็นจริง ด้วยจิตที่ตั้งมั่น และเป็นกลางนะครับ