Print

ธนาคารความสุข - ฉบับที่ ๑๙๗

eddy_cover

ลืมเลยที่เคยจำ

โดย aston27
aston2

boh197

Q : “ตอนนี้ทุกข์เรื่องความรักมากค่ะเราจะลืมได้อย่างไรคะ”

A : ถ้าพี่ถามเรากลับว่า ทำไมต้องอยากลืม เราจะตอบว่าไง?

เพราะเราคิดว่าลืมแล้ว ทุกข์จะหายไปใช่มั้ย จะบอกว่ามันไม่ถูกซะทีเดียวนะ

แม้ว่าที่คนเราทุกข์ใจได้ก็เพราะความคิด เมื่อลืมก็แปลว่าไม่คิดถึง การลืมจึงช่วยให้เราไม่ทุกข์ใจได้ก็จริง แต่ที่จริงกว่าคือจิตเขาเป็นอนัตตา เราสั่งเขาไม่ได้หรอกว่าจะให้จำอะไร ลืมอะไร

ตอนเรียนหนังสือเคยไหม ใกล้จะสอบหอบตำรามาตั้ง นั่งอดหลับอดนอนท่องหนังสือสามวันสามคืน พอเดินเข้าห้องสอบ ดันจำคำตอบไม่ได้เลยสักอัน ต้องมุ่งหน้าไปอำเภอสะเดากันซะงั้น

ทีไอ้เรื่องไม่น่าจะจำ อย่างคำที่เขากระซิบบอกรักที่ใต้ต้นหูกวาง
ตอนบ่ายสองโมงสามสิบนาทีเมื่อสิบสามปีก่อน ตอนที่เรานอนให้เขาหนุนตักแล้วแอบตดเพราะกินถั่วต้มไปสี่ถุง หรือตอนที่เขาส่งไลน์มาเวลาสี่ทุ่มสี่สิบสองนาทีเมื่อปีที่แล้ว
เพื่อบอกเลิกด้วยเหตุผลว่าเราหัวเถิกเกินไป เราดันจำเรื่องพวกนี้ได้ทุกเม็ด

อาการแบบนี้เขาเรียกอนัตตา คือว่าจิตเขาไม่ใช่ขี้ข้าเรา จิตมันเอาแต่ใจตัวเอง มันอยากจำก็จะจำ อยากลืมมันก็จะลืม เราจะทำไม เนี่ยจิตมันประกาศเอกราชมานานแล้วนะ ว่ามันไม่ใช่เราหรอก เรานั่นแหละ ขี้ตู่ไปคิดไปเชื่อเองว่า จิตคือเรา
ทั้งที่พระพุทธเจ้าท่านบอกชาวพุทธให้รู้ไว้ตั้งแต่สองพันหกร้อยกว่าปีมาแล้ว

ฉะนั้น การถามว่าทำไงจะลืม ก็เหมือนถามว่าทำไงหนูจะไม่ตดคะ
ก็ต้องตอบว่าถ้ามีเหตุให้จำ จิตก็จะจำ หมดเหตุให้จำ จิตจะลืมเอง
เหมือนถ้าไม่อยากตดก็อย่าซดถั่วต้มมาก ถ้าไม่อยากจำ ก็อย่าให้ค่าให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นมาก

เหมือนถ้าเพื่อนคนนึงบอกเราว่า เธอๆ...ฉันอยากลืมคนๆนึงมาก แต่เอารูปเขามานั่งจ้อง ทุกๆสองนาที จะกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน นั่งขี้ ก็หยิบรูปเขามาดู แล้วบอกว่า
ฉันต้องลืมไอ้คนนี้ให้ได้ เราคงรู้สึกว่ายายคนนี้สติไม่ค่อยดีใช่มะ

การนั่งคิดถึงใคร แล้วตั้งใจว่าจะลืม ก็อย่างเดียวกัน วิธีที่ง่ายที่สุดคือ ไม่ต้องไปห้ามจิตคิด ไม่ต้องไปห้ามจิตจำ ไม่ต้องบังคับให้จิตลืม แต่ให้มีสติ คือรู้สึกตัวบ่อยๆ รู้สึกทุกครั้งที่จิตหลงไปคิด นึก ปรุงแต่ง

ไม่ว่าจะคิดเรื่องเขา หรือเรื่องใคร เรื่องอะไร ให้คอยรู้ตัวว่าคิด รู้ซื่อๆ รู้สบายๆ
รู้แล้วสักว่ารู้ ไม่ต้องว่าตัวเอง ไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องซ้ำเติมตัวเอง แค่รู้แล้ว จบ

รู้สึกตัวครั้งนึง ความคิดมันจะขาดครั้งนึง จิตจะให้ค่าตามมาหรือไม่
เช่นโกรธตัวเองขึ้นมาว่าทำไมยังไม่ลืม ก็แค่รู้อีก รู้แล้วจบ ไม่ว่ากันต่อ รู้ไปบ่อยๆ
รู้ไปเรื่อยๆ รู้เท่าที่รู้ได้ จะเห็นจิตหลงคิดสั้นลง และสั้นลงเรื่อยๆจนไม่มีผลอะไรกับชีวิตเรา เป็นลมตดที่พัดผ่านมา แล้วผ่านไป ไม่ได้เหม็นตลบอบอวลเพราะเราไปเก็บกักอะไรไว้

ทุกเช้าตื่นมา ให้ไหว้พระ สวดมนต์สั้นๆสักสิบนาทีก็ยังดี ให้โอกาสจิตได้อยู่กับพลังของคุณงามความดีที่บริสุทธิ์ประเสริฐ ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นความงดงามของโลก ขอให้ท่านเป็นครูของเรา ให้เราเรียนรู้จักตัวเอง ด้วยสติ

แล้วก็ตั้งใจรักษาศีล ๕ นะครับ ทำทานทุกครั้งที่มีโอกาส ทำตามกำลังของเรา ทำเพื่อสละออก ใจจะได้คุ้นเคยกับการสละความยึดมั่นว่า นี่มันแฟนเรา ผัวเรา ของเรา ออกไปจากใจบ้าง

ไปลองทำดูนะ แถมเว็บนี้ให้ด้วย http://www.dhamma.com/

สุขสันต์วันที่เรายังจำๆลืมๆอยู่ครับ